วันจ่ายสำหรับเทศกาลตรุษจีน ของชาวไทยเชื้อสายจีนจับจ่ายซื้อสินค้าเตรียมพร้อมสำหรับการไหว้ในวันพรุ่งนี้ โดยบรรยากาศที่ถนนเยาวราชวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก เดินทางมาจับจ่ายซื้ออาหารและของไหว้ต่าง ๆ เตรียมพร้อมสำหรับการไหว้ในวันพรุ่งนี้ โดยส่วนหนึ่งเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่ร้านค้าตั้งร้านก็เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมาจับจ่ายกันแล้ว และยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆ
คนตายได้ใช้ก่อน ร้านค้าผุดไอเดีย “กงเต๊กดิจิทัลวอลเล็ต”
ตรุษจีน 2567 เช็กราคา “ของสดความหมายมงคล” พร้อมพิกัด
ตรุษจีนไทยส่อแววคึกคัก ชาวจีนค้นหาประเทศไทยเพิ่มขึ้น 7 เท่า
โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอมรพรรณ ชาญสาธิต เจ้าของร้านเป็ดพะโล้ บอกว่า แม้ว่าปีนี้ต้นทุนของทางร้านจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะไก่ และวัตถุดิบสำหรับทำขนมอย่างใบตองและน้ำตาล แต่สินค้าของทางร้านยังคงราคาเดิม ซึ่งส่วนตัวมองว่าบรรยากาศการจับจ่ายปีนี้คึกคักกว่าตรุษจีนปีที่แล้ว ประชาชนกล้าจับจ่ายซื้อของมากขึ้น โดยช่วงเทศกาลตรุษจีนช่วยกระตุ้นยอดขายของทางร้านได้ถึง 70-80%
ขณะที่ยังมีผู้ประกอบการอีกด้านหนึ่งที่บอกว่า ตรุษจีนปีนี้ยอดขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หนึ่งในนั้นคือนางสาวขวัญตา สิกขากุล เจ้าของร้านเป็ดพะโล้คนนี้ บอกว่าปีนี้ร้านของเธอเตรียมเป็ดไว้ไม่ถึง 100 ตัว จากปีผ่าน ๆ มาสต็อกไว้ถึง 300 ตัว เพราะต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้ากำลังซื้อน้อยลง สำหรับราคาสินค้าในตลาด ส่วนใหญ่ยังคงราคาเดิมจากปีที่แล้ว อย่างเช่น เป็ดพะโล้ ตัวละ 450-550 บาท ไก่ต้ม ตัวละ 600-650 บาท ส้ม กิโลกรัมละ 150 บาท แอปเปิ้ลฟูจิ 4 ลูก 100 บาท ขนมเข่ง คู่ละ 25-35 บาท ขนมเทียนลูกละ 9-10 บาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้สำหรับคนที่ต้องการจัดชุดไหว้แต่มีงบจำกัด อาจจะเลือกเป็น ของคาว 3 อย่าง เช่น เป็ดครึ่งตัว ไก่ครึ่งตัว หมูบะแซครึ่งกิโลกรัม ของหวาน 3 อย่าง เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน และขนมสาลี่ และผลไม้อีก 3 อย่าง ก็สามารถจัดชุดไหว้ด้วยงบไม่เกิน 1,000 บาทได้แล้ว
มาต่อกันที่บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนในต่างจังหวัด โดยวันจ่ายวันนี้หลายพื้นที่คึกคักกันตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มที่จังหวัดสุรินทร์พ่อค้าแม่ค้าต่างนำเสื้อสีแดงออกมาวางขาย มีตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไปแล้วแต่แบบ ส่วนเสื้อกี่เพ้าราคาเริ่มต้นชุดละ 250 บาท
บริเวณตลาดเอ็กซ์โป ข้างสถานีรถไฟสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าร้านขายเสื้อผ้าต่างนำเสื้อ และกางเกงสีแดงลวดลายต่าง ๆ ออกมาประดับตกแต่งหน้าร้าน โดยมีประชาชนเริ่มทยอยมาเลือกซื้อ จากการสอบถามแม่ค้ารายหนึ่งกล่าวว่า ช่วงนี้จะมีร้านค้านำชุดและเครื่องประดับที่เกี่ยวกับตรุษจีนมาขายจำนวนมาก โดยคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะมาเลือกซื้อกัน เพื่อนำไปใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ช่วงนี้เสื้อตรุษจีนจะขายดีเป็นพิเศษ แม้กระทั่งสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นโทนสีแดงก็ขายดีเช่นกัน ส่วนที่ร้านขายราคาคงที่ ไม่มีการฉวยโอกาส โดยเสื้อสีแดงล้วนเริ่มต้นที่ตัวละ 100 บาท แล้วแต่แบบและเนื้อผ้า ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ทำรายได้จากการขายเสื้อตรุษจีนได้เป็นอย่างดี
ส่วนที่ตลาดแม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก็คึกคักเช่นเดียวกัน แต่ภาพรวมพ่อค้าแม่ค้าพากันปรับราคาขายสูงขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากต้นทุนสินค้าสูงขึ้น โดยเฉพาะผลไม้มงคล ราคาขยับตัวแพงขึ้นเกือบ 2 เท่า เช่น กล้วยหอมทอง หวีละ 200 บาท จากปกติหวีละ 80-100 บาท จนบางร้านไม่ติดป้ายราคา เนื่องจากผลผลิตขาดตลาด ขณะที่ส้มสีทอง ส้มแมนดาริน กก.ละ 140-180 บาท จากปกติ กก.ละ 120 บาท ส่วนส้มโอ ขายเป็นลูก ลูกละ 150 บาท จากเดิมลูกละ 100-120 บาท ด้านขนมหวาน ก็ปรับตัวสูงขึ้นจากผลพวงราคาน้ำตาล เช่น ขนมเข่ง ชิ้นละ 8 บาท ปรับขึ้น 1-2 บาท และยังปรับขนาดให้เล็กลงเล็กน้อย ส่วนกลุ่มอาหารคาว ราคายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีปรับขึ้นเล็กน้อย โดยไก่สดเป็นตัว กก.ละ 90 บาท ไก่ต้ม ตัวละ 270 บาท และเป็ดต้มพะโล้ ตัวละ 390 บาท
ปิดท้ายที่ตลาดสดเทศบาล 2 เทศบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่เช้ามืดมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากออกมาเลือกซื้อหมู ไก่ เป็ด ผลไม้มงคล ขนมเข่ง ขนมเทียน กระดาษเงิน และกระดาษทอง เพื่อใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามประเพณีในวันไหว้วันพรุ่งนี้ โดยราคาสินค้าต่าง ๆ ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งเนื้อหมู ไก่ ปีนี้ไม่ได้ปรับขึ้นราคา ส่วนผลไม้มงคลปรับขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ร้านค้าต่าง ๆ มีการจัดผลไม้มงคล 5 อย่างเป็นชุด ชุดละ 199 – 399 บาท สามารถนำไปเป็นชุดเซ่นไหว้ได้เลย เช่นเดียวกับร้านขายของเซ่นไหว้ที่เป็นกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งมีราคาแพงขึ้น ทางร้านได้จัดเป็นชุด ครบชุดในราคาไม่แพง ราคาเพียง 199 บาท
9 ก.พ. ไหว้ตรุษจีน 2567 จุดธูปกี่ดอก เวลาไหนดี พร้อมทิศมงคลเสริมเฮง
กสิกร ชี้แจง ปัญหาเงินถูกถอนออกจากบัญชีเอง แนะ เก็บบัตร ATM – เดบิต ไว้กับตัว
สรุปจบประเด็นดราม่า! บ้านคุณยายพิธา-ตระกูลอภัยวงศ์