หลังจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ต่อสายโทรศัพท์หา เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อขอให้อิสราเอลหยุดโจมตีชั่วคราว
เมื่อวานนี้ ระหว่างการพูดคุยกับสื่อมวลชน นักข่าวรายหนึ่งก็ได้ถามคำถามต่อประธานาธิบดีไบเดนว่า เขาได้เรียกร้องให้นายกฯ อิสราเอล หยุดโจมตีชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันหรือไม่
Apple ยืนยัน ไร้แผนการผลิต iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่ใช้ชิป M3
“เศรษฐา” ไม่แฮปปี้ สั่งไล่บี้ “แหลมฉบังเฟส 3” ถมทะเลช้า ตั้งคกก.เร่งรัดลงทุน อีอีซี คำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1
คำตอบของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ เขาไม่ได้พูดคุยกับเนทันยาฮูเมื่อวานนี้ แต่เขาได้ขอให้นายกฯ เนทันยาฮูหยุดโจมตีชั่วคราวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
คำถามคือ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอิสราเอลพูดคุยอะไรกันทางโทรศัพท์ รายละเอียดเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการออกมาจาก จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ โดยระบุว่า 2 ผู้นำได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะให้มี “การหยุดโจมตีชั่วคราวเชิงยุทธวิธี” ในฉนวนกาซา หรือที่ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “tactical pause” การหยุดโจมตีชั่วคราวเช่นนี้เป็นไปเพื่อให้พลเรือนในฉนวนกาซาสามารถออกจากพื้นที่ที่มีการสู้รบได้อย่างปลอดภัย เปิดให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพลเรือน และเพื่อเปิดโอกาสความเป็นไปได้ในการปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับไป โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุเพิ่มเติมว่า การพูดคุยครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จะยังไม่จบลงง่ายๆ และสามารถคาดหวังได้ว่าสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนให้มีการหยุดโจมตีชั่วคราวในฉนวนกาซาต่อไป ส่วนท่าทีจากฝ่ายอิสราเอล สื่อตะวันตกหลายสำนักตั้งข้อสังเกตจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ เนทันยาฮูผ่านสถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลียเมื่อวานนี้ว่า มีท่าทีที่เปิดรับกว่าที่ผ่านมา โดยระบุว่า อิสราเอลอาจยอมพิจารณาให้มีการหยุดโจมตีชั่วคราวเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยังคงยืนยันจุดยืนเดิมอย่างที่ผ่านมาว่า อิสราเอลจะไม่ทำข้อตกลงหยุดยิง หรือ ceasefire หากกลุ่มฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมดออกมา พร้อมอ้างว่าการทำข้อตกลงหยุดยิงจะทำให้การทำสงครามกำจัดกลุ่มฮามาสและการช่วยเหลือตัวประกันที่ติดอยู่ฉนวนกาซาสะดุดลง ส่วนอีกคำถามที่ตามมาคือ ทำไมนักข่าวที่ถามประธานาธิบดีไบเดนจึงถามระบุจำนวนวันที่สหรัฐฯ เจรจากับอิสราเอลให้หยุดโจมตีชั่วคราวอย่างเจาะจงว่า สหรัฐฯ ร้องขอไปเป็นเวลา 3 วัน คำตอบคือ ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่มาจากการรายงานของเว็บไซต์ Axios สำนักข่าวออนไลน์ของสหรัฐฯ โดยอ้างรายละเอียดการพูดคุยหลังฉากจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ไม่เปิดเผยตัวตน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในระหว่างการต่อสายหานายกฯ อิสราเอล ประธานาธิบดีไบเดนได้เสนอให้อิสราเอลหยุดโจมตีชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากจะเป็นระยะเวลาที่จะนำไปสู่การปล่อยตัวประกันหลายระลอก อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่าการหยุดโจมตีชั่วคราวเชิงยุทธวิธีที่สหรัฐฯ และอิสราเอลพูดถึงในครั้งนี้ กับการหยุดโจมตีชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมแตกต่างกันอย่างไร
แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ อ้างต่อสำนักข่าว POLITICO ว่า ข้อเสนอสองอย่างนี้ไม่มีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ แทบจะเป็นข้อเสนอแบบเดียวกัน ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า ทั้งสองผู้นำจะหารือร่วมกันอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
หลายฝ่ายประเมินว่า อิสราเอลอาจมีโอกาสจะปรับท่าทีให้ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ มากกว่าเดิม หลังจากที่ความสูญเสียที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซาบีบให้สหรัฐฯ เริ่มปรับสมดุลท่าที จากที่สนับสนุนอิสราเอลในการปราบฮามาสอย่างหนักแน่นไปสู่การเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีชั่วคราว อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ และอิสราเอลยังมีอีกเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันคือ อนาคตของฉนวนกาซาหลังสงครามจบ ล่าสุดทำเนียบขาวได้ออกมาเตือนอิสราเอล หลังนายกฯ อิสราเอลเปิดเผยว่าอาจรักษาความมั่นคงกาซาแบบไม่มีระยะเวลาจำกัด
เมื่อวานนี้ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงจุดยืนของสหรัฐฯ ที่มีต่ออนาคตของฉนวนกาซาว่า สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยและคัดค้านกับการที่อิสราเอลจะยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้ง โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ เชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและจะไม่เป็นผลดีต่ออิสราเอลเอง ล่าสุดวันนี้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเน้นย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ ต่ออนาคตของฉนวนกาซาอย่างหนักแน่นอีกเช่นกัน โดยระบุว่า หลังสงครามจะต้องไม่มีการบังคับย้ายถิ่นชาวปาเลสไตน์ จะต้องไม่มีการใช้ฉนวนกาซาเพื่อก่อการร้าย จะต้องไม่มีการยึดครองฉนวนกาซา และจะต้องไม่มีการปิดล้อม รวมถึงการลดทอนอาณาเขตของฉนวนกาซา
การออกมาประกาศเช่นนี้ของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากนายกอิสราเอลได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียว่า อิสราเอลจะรับผิดชอบควมคุมด้านความมั่นคงของกาซาแบบถาวร หลังจากกำจัดกลุ่มฮามาสสำเร็จ โดยนายกฯ เนทันยาฮูอ้างว่าที่ต้องทำเช่นนี้เพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มฮามาสจะไม่กลับมาโจมตีแผ่นดินอิสราเอลอีก
ทั้งนี้มาร์ก เรเกฟ ที่ปรึกษาอาวุโสของนายกฯ เนทันยาฮูได้ออกมาขยายความเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ อิสราเอลผ่านสำนักข่าว CNN ว่า การควบคุมความมั่นคงของฉนวนกาซาไม่ได้หมายความว่าอิสราเอลจะยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้ง อิสราเอลต้องการควบคุมเพียงด้านความมั่นคงเท่านั้น ไม่ใช่การเข้าไปปกครองโดยตรง ส่วนคำตอบว่าจะให้ใครเป็นผู้ปกครองฉนวนกาซานั้น เอลี โคเฮน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ระบุว่า อิสราเอลต้องการให้ดินแดนดังกล่าวอยู่ภายใต้แนวร่วมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และชาติมหาอำนาจในภูมิภาคที่เป็นมุสลิม หรือบริหารโดยกลุ่มการเมืองปาเลสไตน์ คำตอบของรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่ที่ปรึกษาอาวุโสของนายกฯ อิสราเอลระบุผ่าน CNN ว่าอิสราเอลกำลังให้ความสนใจที่จะสร้างกรอบการปกครองรูปแบบใหม่ที่เปิดให้ประชาชนในฉนวนกาซาปกครองตนเอง โดยมีนานาชาติ ซึ่งรวมถึงชาติอาหรับสนับสนุนการฟื้นฟูฉนวนกาซาที่ปราศจากกลุ่มฮามาสขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ความตั้งใจดังกล่าวที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลระบุสอดคล้องกับความเห็นของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เคยระบุไว้ว่า หลังสงครามสิ้นสุด ฉนวนกาซาไม่ควรอยู่ภายใต้การปกครองของอิสราเอล แต่ควรอยู่ภายใต้การปกครองของหน่วยงานกาซาเอง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าฉนวนกาซาจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ซึ่งบลิงเคนมองว่า อิสราเอลต้องตอบให้ได้ว่าจะจัดการกับระยะเปลี่ยนผ่านการปกครองอย่างไร และจะใช้กลไกแบบใดเพื่อให้เกิดความมั่นคงในฉนวนกาซา ทั้งนี้ อีกประเด็นหนึ่งที่ตามมาคือ หากอิสราเอลจะรับผิดชอบด้านความมั่นคงของฉนวนกาซาแบบถาวร อนาคตของประชาชนชาวกาซาจะเป็นอย่างไรเมื่อวานนี้ระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน วีแดนท์ ปาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนให้มีการบังคับย้ายถิ่นของประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
แต่ล่าสุด มีรายงานจากหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ โดยระบุว่าเป็นข้อมูลจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่การทูตอาวุโส 6 คนว่า อิสราเอลกำลังดำเนินการยื่นข้อเสนอเจรจากับหลายชาติ เพื่อให้อียิปต์ยอมรับประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปลี้ภัยบนแหลมไซไนชั่วคราว โดยอิสราเอลระบุต่อชาติต่างๆ ว่า นี่เป็นข้อริเริ่มเพื่อมนุษยธรรม อย่างไรก็ดี หลายชาติที่เจรจากับอิสราเอล ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าเสี่ยงจะเกิดการผลัดถิ่นหมู่อย่างถาวร และนั่นจะสั่นคลอนความมั่นคงของอียิปต์
ล่าสุด มีการเรียกร้องให้หยุดโจมตีชั่วคราวอีกครั้ง เป็นการออกแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 ระหว่างการประชุมที่กรุงโตเกียว โดยระบุว่ากลุ่ม G7 สนับสนุนการหยุดโจมตีชั่วคราวในฉนวนกาซา เพื่อเปิดให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ไม่ได้เรียกร้องให้คู่สงครามตกลงหยุดยิง
ขณะที่การเจรจาและเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีชั่วคราวในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป ความสุ่มเสี่ยงที่สงครามจะขยายวงไปสู่ระดับภูมิภาคก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะทางตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งการเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ที่อยู่ในเลบานอนยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีจะผ่อนคลาย
ในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่ชายแดนระหว่างอิสราเอลและเลบานอนยังคงทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมากองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลได้ส่งทหารและรถหุ้มเกราะไปประจำการบริเวณชายแดนเพื่อเฝ้าจับตาสถานการณ์ที่นั่น ที่ผ่านมาการโจมตีระหว่าง IDF และกลุ่มเฮซบอลเลาะห์เป็นการใช้ปืนใหญ่โจมตีตอบโต้จากระยะไกล อย่างไรก็ดี ล่าสุด ชีค นาอิม กัสเซม รองเลขาธิการกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ออกมาเปิดเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เฮซบอลเลาะห์จะยกระดับการโจมตีพื้นที่ชายแดนของอิสราเอลและฐานทัพของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หากอิสราเอลยังคงไม่หยุกปฏิบัติการทางการทหารในฉนวนกาซา ทั้งนี้ รองเลขาธิการกลุ่มเฮซบอลเลาะห์อ้างว่านี่เป็นเพียงการป้องปรามและส่งสัญญาณให้อิสราเอลหยุดเท่านั้น
พยากรณ์อากาศ “ฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก” กทม.โดน 60% ของพื้นที่
ยิงปะทะ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” บนเทือกเขาบรรทัด
เผยโฉม 86 สาวงาม ชิง Miss Universe 2023 เงื่อนไขใหม่สาวข้ามเพศ-แต่งงาน-มีลูก เข้าประกวดลุ้นมง